ข้อตกลง OPEC+ ทำให้ราคาต่ำ

ข้อตกลงน้ำมันของกลุ่ม OPEC+ ส่งราคาให้ต่ำลง และนี่อาจเป็นโอกาสในการซื้อ

ราคาน้ำมันร่วงลงมากกว่า 2% ในบ่ายวันจันทร์ในช่วงเวลาทำการของเอเชีย หลังจากกลุ่มโอเปกและพันธมิตรตกลงที่จะยุติการลดการผลิตน้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วง 2.13% สู่ 72.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าสหรัฐร่วง 2.09% สู่ 70.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นักวิเคราะห์น้ำมันกล่าวว่าการมีข้อตกลงนั้น “ดีกว่าไม่มีข้อตกลง” สำหรับองค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร ซึ่งรู้จักกันในนามกลุ่มโอเปก+ ตามการระบุของนักวิเคราะห์น้ำมันที่กล่าวว่าการชะงักงันอย่างต่อเนื่องอาจหมายถึงการผลิตที่เพิ่มขึ้นและราคาที่ตกต่ำ

คุณสามารถซื้อขาย " น้ำมัน " ใน MT5 และ FBSTrader !

Andy Lipow ประธานของ Lipow Oil Associates กล่าวว่า "ฉันคิดว่าพวกเขาตัดสินใจว่าการมีข้อตกลงดีกว่าไม่มีข้อตกลง"

กลุ่มตกลงที่จะเพิ่มการผลิต 400,000 บาร์เรลต่อวันเป็นรายเดือนตั้งแต่เดือนสิงหาคม เนื่องจากจะยกเลิกการลดการผลิตประมาณ 5.8 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในเดือนกันยายน พ.ศ. 2565 เนื่องจากราคาน้ำมันเข้าใกล้ระดับสูงสุดในระดับสูง กว่าสองปี

การเจรจาเพื่อเพิ่มการผลิตก่อนหน้านี้หยุดชะงัก หลังจากที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ปฏิเสธข้อเสนอของกลุ่มบริษัทสำหรับการย้อนกลับของการลดน้ำมัน มันออกจากอุตสาหกรรมและนักลงทุนในบริเวณขอบรกเนื่องจากผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าราคาอาจแตะหลังคาหรือพังลงโดยไม่มีข้อตกลง

โดยในส่วนของปัจจัยนี้ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันมีการปรับตัวร่วงลงโดยเฉพาะ WTI ซึ่งมีการปรับตัวร่วงลงถึง -7.16% ในรอบวันและอาจจะมีการย่อตัวลงไปยะสั้นต้องติดตามดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์อย่างต่อเนื่อง

Screen Shot 2564-07-20 at 01.18.41.png

ซึ่งถ้ามีการปรับตัวร่วงลงแนวรับแรกก็คือ 65.51 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับที่สองก็คือ 64.53 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวรับสุดท้ายก็คือ 63.88 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล

แต่ถ้ามีการขยับตัวสูงขึ้นแนวต้านสำคัญแรกก็คือ 67.080 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวต้านที่สองก็คือ 67.86 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลแนวต้านสุดท้ายก็คือ 69.030 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล

ลงชื่อเข้าใช้

น้ำมัน

brent

wti - west texas intermediate

Author: Purich Mahayosanan

บทความอื่นๆ จากผู้เขียนนี้

คล้ายกัน

05.08.2022 16:28 สิ่งที่สามารถกดให้น้ำมันต่ำกว่า $90 ต่อบาร์เรลได้คืออะไร?

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการแกว่งตัวของราคาน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 14 ปี ซึ่งทำให้ตลาด นักลงทุน และเทรดเดอร์สับสน เนื่องจากความตึงเครียดทางการเมืองและการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด